นวดกะทิ สีผึ้งเคลือบปากไม่ให้ปากแห้ง หอมกลิ่นมะพร้าวคั่ว
กลิ่นหอมของนวดกะทิเช้านี้หอมเย้ายวนอย่าบอกใคร กลิ่นหอมๆลอยมาแบบแบบนี้ทาก็น่าทา กินก็น่ากิน
“นวดกะทิ – สีผึ้งกะทิ” คล้ายแต่ไม่เหมือน วัตถุดิบหลักใช้เป็นกะทิเหมือนกัน แต่เสน่ห์และคุณสมบัติต่างกัน นี่คือภูมิปัญญาที่หลักแหลมของคนโบราณ ที่ใส่ใจประณีตบรรจงเพื่อให้ได้สรรพคุณที่แตกต่างกัน
นวดกะทิกับสีผึ้งกะทิต่างกันอย่างไร
“นวดกะทิ” เป็นสีผึ้งชนิดเคลือบปากป้องกันอาการปากแห้งแบบเดียวกันกับสีผึ้งเนื้อทองค่ะ โดยสีผึ้งเนื้อทองจะมีเนื้อที่เหนียวสามารถยืดเป็นใยบางใสได้ แต่นวดกะทิจะมีความเหนียวละมุนๆแต่ยืดเป็นใยบางๆไม่ได้ พูดให้เห็นภาพคือมันมีความแมทท์ไม่มัน ไม่เงาวาว แต่ยังชุ่มชื่นนั่นเอง
จุดเด่นของสีผึ้งเนื้อเคลือบปากคือช่วย "กักเก็บ" ความชุ่มชื่นให้ผิวปากเราไม่แห้งกร้าน ไม่มีร่องปาก ไม่ลอกเป็นขุย โดยสีผึ้งเคลือบปากจะทำหน้าที่เป็นผิวบางๆอีกชั้นที่ช่วยป้องกันการสัมผัสอากาศหรือภาวะที่ทำให้ปากแห้งจากภายนอก เรียกได้ว่า ความชุ่มชื่นภายในไม่ให้ออก ความแห้งจากภายนอกไม่ให้มากระทบแบบนั้นเลย
สมัยก่อน ในยุคที่การกินหมากยังเป็นที่นิยม สีผึ้งจะช่วยเคลือบปากกันน้ำหมากจับปาก กันปูนกัดปากด้วย
ส่วน “สีผึ้งกะทิ” ก็เป็นสีผึ้งบำรุง เน้นเรื่องความชุ่มชื่น ไม่เคลือบปากเท่านวดกะทิ เวลาทาแล้วจะเนียนแนบไปกับผิวปาก เนื้อจะ “นิ่มละมุน” คล้ายสีผึ้งชมพูนุทหรือสีผึ้งพังแพว(ตำรับคำน่อย) คือจะไม่เหนียวละมุน (ไม่แมทท์) แบบนวดกะทิ
กลิ่นของ “นวดกะทิ” มี 2 แบบอยู่ที่วิธีการหุง ตำรับแรกหุงให้ขึ้น “กลิ่นอ่อน” กลิ่นจะหอมๆหวานๆเหมือนขนม อีกตำรับหุงให้ขึ้น “กลิ่นเข้ม” กลิ่นจะเกือบไหม้แต่ไม่ไหม้ได้เป็นกลิ่นคล้ายกาแฟหอมๆ
นวดกะทิและสีผึ้งกะทินี้จะหุงให้ดี ต้องหุงให้ขึ้นขึ้นกลิ่นและเนื้อตรงตามตำรับ จึงขึ้นชื่อว่าหุ่งเป็นและหุงเก่ง
ความแตกต่างระหว่างกลิ่นหอมฟุ้งกับกลิ่นหอมลึก
ว่าด้วยเรื่องกลิ่นหอมนั้นเราจะมีวิธีดมกลิ่นเบื้องต้น เพื่อทุกคนให้รู้ได้ว่าสินค้าตัวไหนใส่น้ำหอม ตัวไหนไม่ใส่น้ำหอม สินค้าที่เกี่ยวกับริมฝีปากจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องน้ำหอม เพราะว่าสาเหตุอย่างนึงที่ทำให้ปากแห้ง ปากแตก ปากดำกัน ก็มาจากเคมีที่เป็นส่วนประกอบน้ำหอมด้วย เราสามารถแยกกลิ่นได้สองแบบ
1.กลิ่นหอมฟุ้ง
คือกลิ่นที่มีลักษณะมีการฟุ้งกระจายของกลิ่น ชนิดที่เรียกได้ว่าได้กลิ่นก่อนที่ตาจะเห็นเสียอีก เคยไหมที่เพื่อนของเราใส่น้ำหอมกลิ่นนั้นเป็นประจำ เจ้าตัวยังมาไม่ถึง กลิ่นน้ำหอมของเขาก็มาทักทายเราก่อนแล้ว นี่คือลักษณะกลิ่นหอมฟุ้ง มักจะใช้กับน้ำหอม ฉีดพรมที่ผิวกายเพียงเล็กน้อยก็ได้กลิ่นขจรขจาย ดอกไม้บางชนิดก็ให้กลิ่นหอมฟุ้งได้เหมือนกัน
2.กลิ่นหอมลึก
กลิ่นหอมลึกเป็นกลิ่นที่มีลักษณะเหนียมอาย ไม่หาวิธีเข้าไปหาเขา เขาก็ไม่เผยกลิ่นออกมาให้ดมง่ายๆ บางอย่างขนาดเอาจมูกจ่อไปดมใกล้ๆแล้วยังไม่ยอมเผยกลิ่นหอมของตัวเองออกมาเลย
วิธีการจะได้กลิ่นหอมลึก เราจึงต้องทำการกระตุ้นด้วย เช่นการเอามือไปถูหรือไป "สี" เมื่อมันเกิดความเสียดสี ทำให้มีความร้อนเกิดขึ้นโดยตรง กลิ่นก็จะยอมลอยออกมา กลิ่นหอมลึกมักจะอยู่ในวัตถุดิบตามธรรมชาติ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการการสกัดทางเคมี ยกตัวอย่างของกลิ่นหอมลึกจากนวดกะทิตัวนี้ก็ได้
เราจะไม่มีทางได้กลิ่นของกะทิจากระยะหลักเมตรเลย ต่อให้อยู่ใกล้ๆก็ยังไม่ได้กลิ่น จนกว่าเราจะหยิบมันขึ้นมาดมระยะประชิด ก็จะได้กลิ่นหอมในระดับหนึ่ง แต่พอเอานิ้วไปถูหรือสีมันเท่านั้นแหละ กลิ่นหอมของกะทิแท้ๆก็โชยขึ้นมาทันที เราจะรู้สึกได้เองว่านี่คือกลิ่นที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ตรงนี้อาจจะเป็นที่มาของคำว่า "สีผึ้ง"ก็ได้ คือมันเป็นของที่ต้อง "ถู "หรือ "สี" เวลาใช้จึงเห็นผลลัพท์
คำถามที่พบบ่อย ของที่ใช้กับผิวบางๆแบบริมฝีปาก จำเป็นต้องมีกลิ่นหอมฟุ้งๆไหม?
ในส่วนคำน่อยนั้นชัดเจนมาตลอดว่าไม่จำเป็นต้องมีกลิ่นหอม เพราะเราเชื่อว่าได้ไม่คุ้มเสีย ได้กลิ่นหอมน่าใช้ก็จริง แต่ผิวบางๆอาจจะแพ้ได้ ถ้าแพ้ขึ้นมาเรื่องใหญ่กว่าแก้ยากมากๆ และกลิ่นหอมๆฟุ้งๆน่าจะเหมาะผิวกายมากกว่า เราจึงไม่ใส่น้ำหอมในทุกผลิตภัณฑ์ของเรา เพราะฉนั้นวางใจคำน่อยได้ในข้อนี้
ใครยังไม่เคยลองดมกลิ่นนวดกะทิ กลิ่นหอมลึก ที่คำน่อยรับรองเลยว่าคุณจะไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้ในผลิตภัณฑ์ริมฝีปากตัวไหนมาก่อน หายากและนานๆจะมีมาให้ลอง นอกจากลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว มันยังมีคุณสมบัติการเคลือบปากแบบแมทท์ๆ ที่หากใครไม่ชอบความมันวาว ต้องมาลองใช้ตัวนี้
-
ผู้หญิงทุกคนต้องประสบปัญหาสวยไม่เสร็จ วันนี้มงลงคิ้วสวยเป๊ะ กันสาดขนตามาเป็นแผง คอนทัวร์เฉดดิ้งขมูกพุ่งผิวเด้งมาเชียว ออกจากบ้านด้วยคะแนนเต็มสิบ แต่ถูกหักคะแนนรัวๆ ตอนสายๆลิปเป็นคร...
-
สีผึ้งทาปากกับลิปบาล์ม ความเหมือนที่แตกต่าง?วันนี้จะขอมาแยกแยะความแตกต่างของทั้งสองสิ่งนี้ โดยปกติแล้วการทาลิปบาล์ม กับสีผึ้งทาปากมีจุดประสงค์เดียวกันคือ ช่วยบรรเทาริมฝีปากแห้ง แต่...
-
ในสมัยก่อนการกินหมากถือเป็นที่นิยม และจะมีสิ่งที่คนกินหมากต้องเจอคือน้ำหมากจะหยดย้อยมาแห้งจับริมฝีปาก หากปล่อยให้น้ำหมากเกาะตามผิวปาก ปากจะแห้งตึง อีกยังต้องระวัง “ปูนดุ” ซึ่งจะกัด...
-
สาวๆส่วนใหญ่คงใช้ลิปสติกเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากใช้เราจะทำความสะอาดด้วยการเช็ดออก ซึ่งจะตามมาด้วยการสูญเสียความชุ่มชื่นของผิวริมฝีปากออกไปด้วยโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเราทำแบบทุกวันปากของ...
-
อยากทาปากให้มีสีสันแดงสวยอย่างใครๆบ้าง แต่ทำไมทายังไงก็ไม่สวยอย่างใครเขาสักที ใครทาลิปแล้วต้องเจอกับอาการเฟลๆแบบนี้บ้าง มาดูกัน 5 ความเฟลของการทาลิป ปากดำคล้ำจนทาลิปกลอสหรือทาลิปบ...
-
การกินหมากเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยในอดีต เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความรัก ความสัมพันธ์อันดี ไมตรีจิตระหว่างบุคคล เป็นกิจกรรมที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทยในอดีต จนทำให้เกิดการสร...
-
เป็นเนื้อหาของบทความหรือสินค้าโดยละเอียดกรุณาใส่ข้อความ …